วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

นาซาพบดาวเคราะห์


         
นาซา พบดาวเคราะห์ใหม่ เหมือนโลกมากที่สุด เชื่อมีมนุษย์ต่างดาวอยู่

         
       นาซาพบดาวเคราะห์ "กลิส 581 จี" สภาพแวดล้อมเหมือนโลก "มากที่สุด" ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ดวงจันทร์ "ไตตัน" ของดาวเสาร์ มีสภาพเหมาะสม อาจมีมนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่... สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 26 พ.ย. ว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จากองค์การการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ค้นพบดาวเคราะห์ดวงล่าสุด ชื่อว่า "กลิส 581 จี" มีสภาพแวดล้อมเหมือนโลก "มากที่สุด" เท่าที่เคยค้นพบมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ กลิส 581 จี อยู่ห่างออกไปราว 123 แส้นล้านไมล์ พบในกลุ่มดาวตราชั่ง ขนาดใหญ่กว่าโลก 3-4 เท่า ใช้เวลาโคจรเป็นเวลา 37 วัน นอกจากนี้ยังอาจมีของเหลว หรือแหล่งน้ำอยู่บนพื้นผิวด้วย การค้นพบครั้งล่าสุดนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตการณ์ดาวเคราะห์ดวงดังกล่าวมาร่วม 11 ปีแล้ว และได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารแอสโตรฟิสิคอลด้วย ขณะที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่า "ไตตัน" ดวงจันทร์ของดาวเสาร์ มีสภาพเหมาะสม อาจเอื้อให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้ และอาจมีมนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่.

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

ธนาคารเวลา

ธนาคารเวลา





   บทความนี้ เมื่อท่านอ่านจบ ให้ถามตัวเองว่า
สิ่งไหนที่สำคัญ สิ่งนั้นทำแล้วหรือยัง ? ”      ” คนไหนที่เรารัก ทำดีกับเค้าแล้วหรือยัง ? ”
ลองจินตนาการว่ามีธนาคารแห่งหนึ่งเข้าบัญชีให้คุณทุกเช้า เป็นเงิน 86,400 บาท ไม่มีการยกยอดคงเหลือไปวันรุ่งขึ้น
ทุกตอนเย็นจะลบยอดคงเหลือทั้งหมดที่คุณไม่ได้ใช้ระหว่างวัน  คุณจะทำอย่างไร? แน่นอนที่สุดคุณต้องถอนมาใช้ทุกบาททุกสตางค์ ใช่ไหม!!! เราทุกคนมีธนาคารอย่างนั้นเหมือนกัน ธนาคารแห่งนี้ชื่อว่า เวลามันเข้าบัญชีให้คุณ 86,400 วินาที ทุกคืนมันจะถูกล้างบัญชีถือว่าขาดทุนตามจำนวนที่คุณพลาดโอกาสที่จะลงทุนในสิ่งดีๆ มันไม่สะสมยอดคงเหลือ
ไม่ให้เบิกเกินบัญชี ในแต่ละวันจะเปิดบัญชีใหม่ให้คุณ ทุกค่ำคืนจะลบยอดคงเหลือของทั้งวันออกหมด ถ้าคุณเสียโอกาสที่จะใช้ประโยชน์ในระหว่างวัน ผลขาดทุนเป็นของคุณ ไม่สามารถถอยหลังกลับไปได้ไม่มีการถอนของ วันพรุ่งนี้มาใช้ได้ คุณต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันด้วยยอดเงินฝากของวันนี้ให้ลงทุนจากเงินฝากเหล่านี้เพื่อได้ผลตอบแทนมาสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสุขภาพ ความสุข และความสำเร็จ! นาฬิกากำลังเดิน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด  ทำทุกขณะที่คุณมีให้มีคุณค่า! และจำไว้เสมอว่าเวลาไม่คอยใครแม้สักคนเดียว เมื่อวานเป็นอดีต   พรุ่งนี้ยังยากที่จะอธิบาย วันนี้เป็นของขวัญ เราจึงเรียกว่า “Present

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556



 นี่น่ะค่ะคือวิธีการทำขนมไข่เต่า!!!


                         ขนมไข่เต่ามีส่วนประกอบคือ เนยแข็ง สัปะรดกวน น้ำตาลไอซิ่่ง มีรสชาดหอมหวาน         น่ารับประทานมากๆเลยค้าาาา




ปั้นสับปะรดเป็นก้อนกลมรี 



นำแป้งที่เตรียมไว้มาห่อใส่สับปะรด
แป้งที่ห่อใส่สับปะรดเเล้ว
 นำแป้งที่อบเสร็จมาคลุกกับน้ำตาลไอซิ่ง



ได้ขนมไข่เต่าที่น่ารับประทานเเบบนี้นี่เอง




วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เมื่อสอง สาม อาทิตย์ที่ผ่านมา พวกเราได้ลงพื้นที่ไปทำขนมมา เชิญชมได้เลยคร้า!!!


                                      ขนมคุ๊กกี้ถั่ว นิยมทำในช่วงเทศกาลอารีรายอในจังหวัดสตูลเป็นขนมที่ทำได้ง่ายใช้เวลาไม่นานในการทำ  ส่วนประกอบที่ใช้ คือ เเป้งสาลี 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาว 500 กรัม 500 กรัม เเละน้ำมันพืชประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ


การทำขนมคุ๊กกี้ถั่ว
 นี่คือแป้งที่เรานวดเสร็จแล้ว
การใช้มือกดเเป้งให้บางลงเพื่อใช้เเม่พิมพ์กดเป็นรูปต่างๆ
แป้งที่เราใช้แม่พิมพ์กดเป็นรูปต่างๆ
ใช้พู่กันชุบไข่เเดงมาทาขนมเพื่อให้มีสีสันสวยงาม
นำเข้าเตาอบประมาณ 3-5 นาที
ขนมคุ๊กกี้ถั่วจากฝีมือพวกเราค่ะ น่ากินใช่ไหมล๊ะ??







วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กิน นอน ให้ถูกวิธีคุณก็ผอมได้

กิน นอน ให้ถูกวิธีคุณก็ผอมได้




อาการไขมันเกินและพอกพูนกลายเป็นความอ้วน ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของคนไทยอีกต่อไป หากย้อนมาแก้ที่ต้นเหตุให้ถูกจุด สมดุลที่พอดีก็จะคืนหุ่นสวยๆ ได้ไม่ยากร่างกายคนเรามักเกิดการสะสมของไขมันได้ง่ายหลังอายุขึ้นเลข 3 โดยเฉพาะในผู้หญิงจะพบได้มากกว่าผู้ชาย ตรงบริเวณส่วนต้นขา สะโพก ต้นแขน เนื่องจากหลายสาเหตุเกี่ยวโยงกัน ตั้งแต่ตื่นนอนไปจนกระทั่งนอนหลับ
 ร่างกายของคนเราและสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนต้องพึ่งพาแสงแดด และแสงจันทร์ในการดำรงชีวิต เห็นชัดๆ จากระบบการผลิตฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย จะทำงานตั้งแต่เช้า หากตื่นได้ก่อน 6 โมงเช้า แล้วออกกำลังกายเบาๆ สักครึ่งชั่วโมง ฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มีส่วนกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายจะทำงานได้ดี และยากที่จะเกิดการสะสมของไขมันที่กินเข้าไปพญ.มนวรัตน์ พ่อค้า ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย คลินิกฮาร์โมนี อธิบาย
 ส่วนคนที่ตื่นสายเป็นประจำก็ดูกันไม่ยาก มักมีร่างกายเจ้าเนื้อ เพราะฮอร์โมนดังกล่าวทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร กินเท่าไหร่ก็สะสม ระหว่างวันก็ไม่ค่อยพร้อมที่จะทำกิจกรรมอะไรมากนัก ง่วงนอนง่าย หิวบ่อย ขณะที่คนไหนใช้ชีวิตอย่างเป็นระเบียบกินเป็นเวลา นอนเป็นเวลา ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ร่างกายจะตื่นตัวในการใช้ชีวิตมากกว่าคนที่ไม่ดูแลเลย
 ฉะนั้น การปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานมีประสิทธิภาพ นอกจากตื่นเช้าแล้ว ช่วง 7-8 โมงเช้าก็ควรรับประทานอาหารมื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด เนื่องจากจะส่งผลถึงสมองให้ทำงานสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยมื้อหลังเที่ยงไปแล้วก็ให้เลี่ยงเมนูแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต แต่เลือกกินโปรตีนเบาๆ แทน จากนั้นมื้อเย็นก็เลือกกินผักผลไม้เพื่อให้ร่างกายขับถ่ายคล่องในตอนเช้า
              “คนส่วนใหญ่มักเน้นมื้อเย็นให้หนัก เพื่อให้รางวัลชีวิตหลังเหนื่อยกับงานมาทั้งวัน แต่ไม่ออกกำลังกายเลย แถมถามหมอว่า ทำอย่างไรดีจึงจะผอม? คำถามนี้หมอว่า คนที่ถามน่าจะรู้พฤติกรรมการกินอยู่ของตัวเองดีที่สุดว่า มีการใส่ใจหรือถูกละเลยอย่างไรจึงเกิดผลเช่นนั้น เพราะถ้าเพียงถามแต่ไม่ลงมือทำ อีก 10 ปีก็มีแต่จะน้ำหนักเพิ่มแน่ๆคุณหมอกล่าว
 อาหารเป็นปัจจัยทำให้อ้วนได้ 70-80% การออกกำลังกายช่วยเผาผลาญพลังงานที่กินเข้าไปได้แค่ 20% เท่านั้น วิธีที่กินแล้วไม่อ้วน ผู้กินก็ต้องจัดสรรเรื่องเวลาให้เหมาะสม ด้วยการทิ้งช่วงห่างกับการนอนอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้ลำไส้มีเวลาพอที่จะย่อยอาหารได้เสร็จสมบูรณ์และนอนหลับสนิท ไม่ปวดท้องจากการกินมากจนนอนไม่ได้ มื้อเย็นควรกินให้เสร็จก่อน 6 โมงเย็น เพราะขณะที่นอนหลับลำไส้ของเราจะหยุดทำงานไปด้วย คนไหนกินก่อนนอนปริมาณมากๆ ร่างกายจะย่อยไม่ทันและเกิดการหมัก สุดท้ายร่างกายก็ดูดซึมกากอาหารเหล่านั้นกลับเข้ามาหมุนเวียนในร่างกาย จนเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเรื่องการอุดตันอวัยวะต่างๆ ตามมาในอนาคต
       การนอนที่จะได้ประโยชน์นั้น ควรเว้นห่างจากมื้อเย็นไปแล้ว เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ได้พักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปิดแสงไฟอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ให้หมด เพื่อให้เกิดความมืดและสมองสั่งการให้ร่างกายหลับ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมควรเป็นช่วงก่อน 4 ทุ่ม เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินและโกรทฮอร์โมนออกมาซ่อมแซมร่างกาย คงความเยาว์วัยอยู่กับเรานานๆ
       การนอนทำให้ร่างกายได้รับการซ่อมแซมส่วนต่างๆ ได้ดีที่สุด หมออยากให้ทุกคนหันมาตระหนักเรื่องการใส่ใจสุขภาพให้มากขึ้น ด้วยการปรับไลฟ์สไตล์ ลองตื่นเช้าดู นอนเร็ว ไม่กินดึก เชื่อว่าน้ำหนักของหลายคนที่ทำตามต้องลดแน่ๆ โดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริม หรือคอร์สลดน้ำหนัก ซึ่งระยะยาวหากเจ้าตัวไม่ได้คิดจะปรับพฤติกรรมของตัวเองก็จะกลับมาอ้วนเหมือนเดิมคำแนะนำจากแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แมลงวัน

   


แมลงวัน






                                  ท่านศาสดามูฮัมมัด ได้กล่าวว่า “เมื่อมีแมลงวันได้ตกใส่ภาชนะของพวกท่านคนใดคนหนึ่ง ให้เขากดมันให้จมไปทั้งตัว หลังจากนั้นให้เอาทิ้งไปเพราะปีกข้างหนึ่งจากสองปีกของมันนั้นเป็นยาและปีกอีกข้างหนึ่งของมันเป็นโรค รายงานโดยท่านบุคอรี นะซาอี และท่านอบีดาวูด

       หะดีษนี้นับเป็นหะดีษที่รู้จักกันแพร่หลายมากที่สุด หะดีษหนึ่งในหมู่ชนมุสลิมทำให้เขาได้รู้ว่าแมลงวันนั้นเป็นสัตว์ที่ต้องระวังเพราะมันมีเชื้อโรคหรือสามารถนำโรคมาให้เราได้แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ได้รู้ด้วยว่าภายในแมลงวันตัวเดียวกันที่นำโรคมาให้มนุษย์นั้นกลับมียาที่จะรักษาโรคนั้นๆรวมอยู่ด้วย

      เนื่องจากมุสลิมเป็นผู้ที่ยอมรับต่อบัญชาของอัลลอฮ์และคำสอนของท่านศาสดามูฮัมมัดอยู่แล้วและพร้อมที่จะปฏิบัติตามได้ทันทีโดยไม่สงสัยในสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าและศาสดาของพระอง์บอกเลยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และมันมีเชื้อโรคจริงๆ หรือไม่ ถ้าจริงคืออะไร ชนิดใด และมียารักษาโรคนั้นจริงหรือไม่ ถ้าจริงคือชนิดใดและอยู่ที่ไหน? นั่นแหละคือความศรัทธามั่นของบรรดามุสลิมที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขา
      แต่อย่างไรก็ตามน่าจะเป็นการดีว่า ถ้าเราจะสามารถรู้ได้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันคืออะไรแน่เพราะนี่คือโอกาสทองของบรรดามุสลิมที่ได้รู้คำตอบที่ถูกต้องไว้เรียบร้อยแล้วเหลือเพียงหาสาเหตุที่เป็นจริง ๆ ให้พบเท่านั้น เขาก็สามารถจะรู้ได้โดยง่ายดาย การค้นคว้าในสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพราะเราไม่เชื่อถือในสิ่งที่พระองค์บอกแต่เป็นเพราะเราจะได้ทำตามสิ่งที่พระองค์สั่งเรา อีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือการพิจารณาสังเกตสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงสร้างและความมหัศจรรย์ของมันซึ่งจะยิ่งเพิ่มพูนความศรัทธาแก่เราให้มากยิ่งขึ้นและช่วยให้มุสลิมเราได้มีความรู้ความสามารถขึ้นกว่าเดิม แข็งแกร่งกว่าเดิมสามารถที่จะทำให้ศาสนาของพระองค์เป็นที่ยอมรับกันมากยิ่งขึ้นไป การกระทำเช่นนี้จึงเป็นการทำดีต่อพระผู้เป็นเจ้าและศาสนาของเราอีกทางหนึ่ง นอกเหนือไปจากการละหมาด การถือศีลอด การจ่ายซะกาต หรือการทำฮัจย์ก็ตาม สมควรที่พวกเราควรตั้งใจทำกันให้มาก ๆ เพื่อศาสนาของเราเอง
      แมลงวันเป็นสัตย์ที่อยู่คู่กับโลกมานานแล้ว และเป็นที่คุ้นเคยกับคนทั่ว ๆ ไป แต่อย่างไรก็ตามไม่ค่อยได้มีใครรู้รายละเอียดเกี่ยวกับมันเท่าไรนัก
      แมลงวันบ้าน มีชื่อทางภาษาอังกฤษว่า HOUSE FLY และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Musca domestica จัดเป็นแมลงชนิดหนึ่ง ขนาดเล็ก ประกอบด้วย สามส่วนคือ ส่วนที่หนึ่งคือส่วนหัว (Head) ซึ่งจะมีปากไว้ดูดอาหารได้ ส่วนที่สองคือส่วนอก (Thorax) จะประกอบด้วยปล้องสามปล้องและมีขาคู่หนึ่งออกมาในแต่ละปล้อง จึงมีขางอกออกมาทั้งหมดหกขาและปีกสองปีกอยู่เหนือขาปล้องกลาง ส่วนที่สามคือส่วนท้องหรือลำตัว (Abdomen) ซึ่งจะมีกระเพาะอาหาร ลำไส้ และระบบย่อยอาหารอยู่ภายในด้านข้างของลำตัวจะมีท่าหายใจโผล่ออกมาเป็นแถว ๆ ท่อที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่บริเวณส่วนอกใต้ปีกสองข้าง ส่วนท่อเล็ก ๆ อื่น ๆ อยู่บริเวณท้อง ตัวโตเต็มวัยจะมีชีวิตประมาณ 17-29 วัน

      จากการศึกษาพบว่าส่วนมากแล้วแมลงวันจะมีเชื้อโรคติดอยู่ตามขาทั้งหกข้างและปีกทั้งสองข้างของมัน เนื่องจากชอบอยู่ในที่สกปรกและขามันมีลักษณะเป็นขน ๆ เชื้อโรคจึงติดไปกับมันโดยง่าย
      แต่ก็เป็นที่น่าแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่งเช่นกันว่า เชื้อโรคเหล่านี้ไม่ได้อยู่ตลอดไปมันจะอยู่ไม่นานแล้วหายไปหมด เช่น B enteritides ที่ทำให้เกิดลำไล้อักเสบหรือโรคท้องร่วงจะอยู่ได้ไม่เกินเจ็ดวัน B typhosus ต้นเหตุของโรคไข้ไทฟอยด์อยู่ได้ไม่เกิน 6 วัน V cholera ที่ทำให้เกิดโรคอหิวาต์อยู่ได้ไม่เกิน 2 วัน หลังจากนั้นมันก็จะหายไปหมดโดยไม่มีเชื้อโรคใด ๆ หลงเหลืออยู่ นอกจากเชื้อที่อยู่เป็นปกติในลำไส้เท่านั้น
      นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นคว้าต่อมาจนพบว่าสาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะในลำไส้ของแมลงวันมีไวรัสชนิดหนึ่งอาศัยอยู่และไวรัสชนิดนี้เองที่เป็นตัวจับแบคทีเรียทั้งหมดนี้ และปล่อยดีเอ็นเอของมันเข้าไปในเซลล์เชื้อโรคเหล่านี้จึงต้องผลิตแต่ตัวไวรัสชนิดนี้ออกมาจนตัวเชื้อโรคเองต้องแตกออกและตายไปในที่สุด

      ไวรัสชนิดนี้จึงมีชื่อว่าแบคเทริโอเฟจ (Bacteriophage) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า เฟจ (Phage) แปลว่าผู้ฆ่าแบคทีเรียนั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้จักกันดีและได้ถูกใช้นำมาฆ่าเชื้อโรคที่ทำอันตรายมนุษย์เป็นเวลาช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นอเล็กซานเดอร์เฟลมมิง คิดค้นยาปฏิชีวนะคือยาเพนิซิลลินขึ้นมาได้เป็นครั้งแรก ก็เลยทำให้แบคเทริโอเฟจ ค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลงไปและไม่ค่อยมีการค้นคว้าเกี่ยวกับมันอีก นอกจากในประเทศรัสเซียซึ่งยังมีการค้นคว้ากันอยู่
      นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่อาศัยร่วมในลำไส้ของแมลงวันแต่ไม่ทำอันตรายแมลงวันนั้นก็มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคด้วยเช่นเดียวกัน โดยเป็นพวกเชื้อราบางชนิดเขาเรียกพวกนี้ว่า ไมโครไบโอตา (Microbiota) ซึ่งหมายถึงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ๆ นั่นเอง

      วิธีการฆ่าตัวเชื้อโรคของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็โดยการไหลออกมาตามท่าหายในที่อยู่ข้างลำตัวมั่นนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าหายในที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ตรงบริเวณหน้าอกใต้ปีกของแมลงวันเอง
      เมื่อแมลงวันถูกกดให้จมน้ำมันจะสำลักและขย้อนเอาของที่อยู่ในลำไส้ของมันออกมาซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ แบคเทริโอเฟจและในขณะเดียวกันก็ยังมีไมโครไบโอตา ที่ถูกขับออกมาทางท่อหายใจออกมาฆ่าเชื้อโรคด้วย

      ดังนั้นการที่แมลงวันตกลงไปในน้ำ จึงทำให้น้ำนั้นมีเชื้อโรคแต่เมื่อกดแมลงวันนั้นให้จม สารกำจัดโรคก็จะออกมาฆ่าเชื้อโรคเหล่านั้นได้ และสารนั้นก็อยู่บริเวณโคนปีกของแมลงวันนั่นเอง สมจริงดังคำบอกเล่าของท่านศาสดาที่กล่าวไว้เมื่อพันสี่ร้อยปีก่อน ทั้ง ๆ ที่ในสมัยนั้นยังไม่มีใครรู้จักตัวเชื้อโรคและแน่นอนไม่มีใครรู้จักสารฆ่าเชื้อโรคด้วยซ้ำไป แม้แต่วิทยาการสมัยใหม่ก็เพิ่งรู้จักมันเมื่อประมาณร้อยกว่าปีมานี่เอง


      สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีของการมีอยู่ของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้ทรงรู้ในสิ่งที่มนุษย์ไม่รู้และคำสอนของศาสดาของพระองค์นั้นก็สมจริงและมีประโยชน์ยิ่งต่อบรรดาผู้ศรัทธาและทำตามพระองค์ เราทั้งหมดจึงควรทำตามที่พระองค์สั่งสอนให้ทุก ๆ อย่าง ทั้งนี้เพื่อความสุขอันสถาพรทั้งในโลกนี้และในโลกหน้าตลอดไป วัสลามฯ

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โรคมีเนีย menier’s disease





โรคมีเนีย menier’s disease





ลัยลา เป็นหญิงอายุ 48 ปี อาชีพรับราชการ เธอสังเกตว่ามีเสียงดังในหูด้านขวาเหมือนจักจั่นหรือจิ้งหรีดร้องมานานประมาณ 1 เดือน วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังนั่งคุยกับเพื่อนร่วมงาน เธอมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน คลื่นไส้ อาเจียน เหงือออกและหูอื้อ ขณะที่เธอมีอาการเวียนศีรษะ เธอรู้สึกคล้ายกับว่ามีแรงดันอยู่ภายในหูด้านขวาด้วย เธอจึงไปพบแพทย์ทางด้านหู คอ จมูก ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

หลังจากได้รับการซักประวัติและตรวจร่างกายแล้ว แพทย์กล่าวว่า “คุณเป็นโรคมีเนีย (menier’s disease) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่อาจพบได้ในคนที่เป็นโรคซิฟิลิสและคนที่เป็นโรคหูหนวก โดยอาจจะเป็นที่หูข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ แต่ระยะแรกอาจจะเป็นที่หูข้างใดข้างหนึ่งก่อน แต่เมื่อเป็นนานๆ จะมีโอกาสให้หูอีกข้างหนึ่งเป็นร่วมด้วย
สาเหตุของโรคนี้เกิดจากการที่ของเหลวซึ่งอยู่ภายในของเยื่อหุ้มหูชั้นใน ในส่วนที่มีลักษณะคล้ายก้นหอยทำหน้าที่รับเสียงและส่วนอวัยวะรูปเกือกม้า 3 อัน ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการทรงตัวมีของเหลวคั่งมาก การไหลเวียนจึงไม่สะดวก ทำให้เกิดแรงดันในหูชั้นในเพิ่มขึ้น จนไปขัดขวางการทำงานของกระแสประสาทที่เกี่ยวกับการได้ยินและการทรงตัว จึงสูญเสียการได้ยินและความสมดุลย์ ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ยิ่งแรงดันเพิ่มสูงมากขึ้นเท่าใด ยิ่งทำให้หูข้างที่เป็นมีอาการเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าเป็นเพียงชั่วคราวจะสามารถกลับมาได้ยินเสียงตามปกติได้ แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ และเป็นนานๆ จะเกิดอาการหูอื้ออย่างถาวร จนกระทั้งหูหนวกไปเลยก็ได้
ลัยลาถามแพทย์ว่า “หูมีกี่ชั้นค่ะและถ้าจะให้หายขาดจากการเป็นโรคนี้จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้างคะ แพทย์ตอบว่า หูประกอบด้วย หูชั้นนอก หูชั้นกลาง และหูชั้นใน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ส่วนที่เป็นกระดูก และส่วนทีเป็นเยื่อหุ้มภายในโดยส่วนที่เป็นกระดูกห่อหุ้มส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มภายในซึ่งมีของเหลวอยู่ การเกิดโรคมีเนียเกิดจากของเหลวอยู่ซึ่งอยู่ภายในคั่งมาก เกิดการไหลเวียนไม่สะดวกจึงมีแรงดันเพิ่มสูงมากขึ้น ดังนั้นหมอจะให้ยาขับปัสสาวะเพื่อลดการบวมและคั่งของน้ำในหูชั้นใน ให้ยาลดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ให้ยากล่อมประสาทและยานอนหลับเพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สามารถนอนหลับได้เป็นปกติและให้ยาขยายหลอดเลือด เพื่อช่วยลดอาการบวมและคั่งของน้ำในหูชั้นในเพื่อการรักษาโรคนี้ อย่างไรก็ตามยังคงมีความสำคัญในการปฏิบัติตัวเพื่อลดอาการของโรคโดยจะต้องลดอาหารเค็ม งดชา กาแฟ สุรา บุหรี่ ลดภาวะเครียด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ