กิน นอน ให้ถูกวิธีคุณก็ผอมได้
อาการไขมันเกินและพอกพูนกลายเป็นความอ้วน
ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของคนไทยอีกต่อไป หากย้อนมาแก้ที่ต้นเหตุให้ถูกจุด
สมดุลที่พอดีก็จะคืนหุ่นสวยๆ ได้ไม่ยากร่างกายคนเรามักเกิดการสะสมของไขมันได้ง่ายหลังอายุขึ้นเลข
3 โดยเฉพาะในผู้หญิงจะพบได้มากกว่าผู้ชาย
ตรงบริเวณส่วนต้นขา สะโพก ต้นแขน เนื่องจากหลายสาเหตุเกี่ยวโยงกัน
ตั้งแต่ตื่นนอนไปจนกระทั่งนอนหลับ
“ร่างกายของคนเราและสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนต้องพึ่งพาแสงแดด
และแสงจันทร์ในการดำรงชีวิต เห็นชัดๆ จากระบบการผลิตฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย
จะทำงานตั้งแต่เช้า หากตื่นได้ก่อน 6 โมงเช้า แล้วออกกำลังกายเบาๆ
สักครึ่งชั่วโมง
ฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มีส่วนกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายจะทำงานได้ดี
และยากที่จะเกิดการสะสมของไขมันที่กินเข้าไป” พญ.มนวรัตน์
พ่อค้า ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย คลินิกฮาร์โมนี อธิบาย
ส่วนคนที่ตื่นสายเป็นประจำก็ดูกันไม่ยาก
มักมีร่างกายเจ้าเนื้อ เพราะฮอร์โมนดังกล่าวทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
กินเท่าไหร่ก็สะสม ระหว่างวันก็ไม่ค่อยพร้อมที่จะทำกิจกรรมอะไรมากนัก ง่วงนอนง่าย
หิวบ่อย ขณะที่คนไหนใช้ชีวิตอย่างเป็นระเบียบกินเป็นเวลา นอนเป็นเวลา
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ร่างกายจะตื่นตัวในการใช้ชีวิตมากกว่าคนที่ไม่ดูแลเลย
ฉะนั้น
การปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานมีประสิทธิภาพ นอกจากตื่นเช้าแล้ว ช่วง 7-8
โมงเช้าก็ควรรับประทานอาหารมื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด
เนื่องจากจะส่งผลถึงสมองให้ทำงานสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
โดยมื้อหลังเที่ยงไปแล้วก็ให้เลี่ยงเมนูแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต
แต่เลือกกินโปรตีนเบาๆ แทน
จากนั้นมื้อเย็นก็เลือกกินผักผลไม้เพื่อให้ร่างกายขับถ่ายคล่องในตอนเช้า
“คนส่วนใหญ่มักเน้นมื้อเย็นให้หนัก
เพื่อให้รางวัลชีวิตหลังเหนื่อยกับงานมาทั้งวัน แต่ไม่ออกกำลังกายเลย แถมถามหมอว่า
ทำอย่างไรดีจึงจะผอม? คำถามนี้หมอว่า
คนที่ถามน่าจะรู้พฤติกรรมการกินอยู่ของตัวเองดีที่สุดว่า
มีการใส่ใจหรือถูกละเลยอย่างไรจึงเกิดผลเช่นนั้น เพราะถ้าเพียงถามแต่ไม่ลงมือทำ
อีก 10 ปีก็มีแต่จะน้ำหนักเพิ่มแน่ๆ” คุณหมอกล่าว
อาหารเป็นปัจจัยทำให้อ้วนได้ 70-80%
การออกกำลังกายช่วยเผาผลาญพลังงานที่กินเข้าไปได้แค่ 20%
เท่านั้น วิธีที่กินแล้วไม่อ้วน ผู้กินก็ต้องจัดสรรเรื่องเวลาให้เหมาะสม
ด้วยการทิ้งช่วงห่างกับการนอนอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง
เพื่อให้ลำไส้มีเวลาพอที่จะย่อยอาหารได้เสร็จสมบูรณ์และนอนหลับสนิท
ไม่ปวดท้องจากการกินมากจนนอนไม่ได้ มื้อเย็นควรกินให้เสร็จก่อน 6
โมงเย็น เพราะขณะที่นอนหลับลำไส้ของเราจะหยุดทำงานไปด้วย
คนไหนกินก่อนนอนปริมาณมากๆ ร่างกายจะย่อยไม่ทันและเกิดการหมัก
สุดท้ายร่างกายก็ดูดซึมกากอาหารเหล่านั้นกลับเข้ามาหมุนเวียนในร่างกาย
จนเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเรื่องการอุดตันอวัยวะต่างๆ ตามมาในอนาคต
การนอนที่จะได้ประโยชน์นั้น
ควรเว้นห่างจากมื้อเย็นไปแล้ว เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ได้พักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยปิดแสงไฟอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์
ให้หมด เพื่อให้เกิดความมืดและสมองสั่งการให้ร่างกายหลับ
ซึ่งเวลาที่เหมาะสมควรเป็นช่วงก่อน 4 ทุ่ม
เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินและโกรทฮอร์โมนออกมาซ่อมแซมร่างกาย
คงความเยาว์วัยอยู่กับเรานานๆ
“การนอนทำให้ร่างกายได้รับการซ่อมแซมส่วนต่างๆ
ได้ดีที่สุด หมออยากให้ทุกคนหันมาตระหนักเรื่องการใส่ใจสุขภาพให้มากขึ้น
ด้วยการปรับไลฟ์สไตล์ ลองตื่นเช้าดู นอนเร็ว ไม่กินดึก
เชื่อว่าน้ำหนักของหลายคนที่ทำตามต้องลดแน่ๆ โดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริม
หรือคอร์สลดน้ำหนัก
ซึ่งระยะยาวหากเจ้าตัวไม่ได้คิดจะปรับพฤติกรรมของตัวเองก็จะกลับมาอ้วนเหมือนเดิม”
คำแนะนำจากแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย