วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ช็อกโกแลต
ลดเสี่ยงเส้นเลือดตีบ

          นักวิจัยที่สถาบันคาโรลินสกา (Karolinska Institute) ในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ได้ติดตามศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้ชายสวีเดน ที่อายุระหว่าง 45 ถึง 79 ปี มากกว่า 37,000 คน เป็นเวลาประมาณ 10 ปี ด้วยการให้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับอาหารการกินต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบผู้ชายกลุ่มที่กินช็อกโกแลตอาทิตย์ละประมาณ 63 กรัม มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ที่เป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดการเป็นอัมพฤกษ์ อัมภาพ น้อยกว่ากลุ่มที่กินช็อกโกแลตน้อยหรือไม่กินเลยถึง 17 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเวลาและถ้ากินในระดับ 50 กรัมต่อสัปดาห์ ก็ยังช่วยลดอัตราเสี่ยงได้ถึง 14 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน

         แม้งานวิจัยก่อนหน้านี้จะบุว่า การรับประทาน "ดาร์กช็อกโกแลต" มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมควรคู่กับอาหารครบ 5 หมู่ แต่ช็อกโกแลตที่ใช้การทดลองครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นช็อกโกแลตนม เนื่องจากเป็นที่นิยมในสวีเดน เพื่อสนับสนุนผลการศึกษาดังกล่าว นักวิจัยได้นำข้อมูลมารวมกับผลการศึกษาก่อนหน้านี้ 4 ครั้ง ซึ่งรวมถึงผลการศึกษาชิ้นที่เกือบเหมือนกันมากที่ศึกษาในผู้หญิง เมื่อปี 2554 และผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่นำมารวมกันซ้ำอีกครั้ง ได้ผลที่คล้ายคลึงกัน ผู้ชายและผู้หญิงที่กินช็อกโกแลตมากมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบน้อยกว่าถึง 19 เปอร์เซ็นต์

        ผลการศึกษาชิ้นนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากสภาการวิจัยสวีเดน และตีพิมพ์ในวารสารนิวโรโลจี ฉบับ วันที่ 26 สิงหาคม นับเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อีกชิ้นหนึ่งที่สนับสนุนข้อมูลที่ว่าช็อกโกแลตหรือโกโก้ มีส่วนประกอบบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อหัวใจและเส้นเลือด

         โกโก้นั้นมีส่วนประกอบของฟลาโวนอยด์ สารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติลดความดันโลหิต เพิ่มไขมันดีหรือเอชดีแอลและช่วยให้การทำงานของหลอดเลือดดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เลือดไม่แข็งตัวเป็นลิ่ม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการหัวใจวายหรือเส้นเลือดตีบ

       

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หลักการและเหตุผล kanom raya



            ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยในการดำเนินชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นไปอย่างอิสระเสรี ซึ่งเต็มไปด้วยความหลากหลายในด้านต่างๆเช่น ประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนา และสำเนียงในแต่ละภาค ทำให้ในแต่ละภาค แต่ละพื้นที่ ของประเทศไทยนั้นมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และเนื่องด้วยความเป็นเมืองพุทธ ที่มีประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนั้น ทำให้ประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ที่เป็นส่วนน้อยมีความโดดเด่นขึ้นมาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การแต่งกาย ภาษา วันสำคัญ และอาหารการกิน                                                
     
            ซึ่งถ้าพูดถึงวันสำคัญทางศาสนาอิสลามแล้ว จะมีวันอีดอยู่ด้วยกันเพียง 2 วันเท่านั้น คือ วันอารีราอีดิ้ลฟิตรีและวันฮารีรายาอีดิ้ลอัฎฮา วันทั้งสองนี้ จะเป็นวันที่มุสลิมทั้งหมด จะมารวมตัวที่มัสยิด พบปะญาติพี่น้อง สังสรรค์กันอย่างมีความสุข ถือเป็นวันที่ชาวมุสลิมให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และเมื่อถึงวันนี้สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึง และเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างที่ขาดไมได้ นั่นก็คือ ขนมรายาเป็นขนมที่นำมารับประทานกันขนมรายาที่มีความโดดเด่นทั้งรูปร่างเละรสชาติมีหลายชนิดเช่น ขนมไข่  ขนมดอกจอก ขนมทองพับ(เปด)   ขนมบุหงาบูดะ ขนมเขาควาย และอื่นๆอีกมากมาย

            ดังนั้นคณะผู้จัดทำจึงสนใจ และมีความประสงค์ที่จะนำเสนอ รายละเอียดที่เกี่ยวกับขนมรายา ไม่ว่าจะเป็น วีธีทำขนมรายาอย่างละเอียด รูปภาพประกอบในการทำขนมรายา วีดีโอการทำขนม ซึ่งคณะผู้จัดทำจะทำออกมาในรูปแบบของเว็บล็อก เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้รู้จักขนมรายาอย่างแพร่หลาย และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ได้อย่างเหมาะสม                                                                                                                               

ขนมรังต่อ (ดอกจอก)


วันที่ 23 กรกฎาคม 2556



ขนมรังต่อ (ดอกจอก)


ขนมรังต่อ น่ากินมาเเล้วจ้าาาา




 อุปกรณ์ในการทำ...
1.กระทะ
2.กะละมัง
3.ตะแกรง
4.แก้วตวง
5.หม้อ
6.เเม่พิมพ์
7.ถาด
8.ไม้เขี่ย

วัตถุดิบจ้าา...
1.แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
2.ไข่ไก่ 3 ฟอง
3.เกลือเล็กน้อย
4.น้ำปูนใส
5.น้ำตาล 100 กรัม

6.น้ำมัน 1 ขวด



ขั้นตอนสำคัญ คือ การทำขนมรังต่อนั่นเอง
อย่ากระพริบตาเชียวน่ะ!!!!!

1.เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เเล้วลุยกันเลย ><

2.นำแป้งข้าวเจ้า 500 กรัม ใส่ลงในหม้

3.ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย เเล้วตีให้เข้ากัน

        4.เทไข่ไก่ลงในเเป้ง  พร้อมกับใส่เกลือเล็กน้อย และน้ำตาลแล้วใส่น้ำปูนใสเรื่อยๆ จากนั้นค่อยคลุกให้เป็นเนื้อเดียวจนเป็นเนื้อเหลวพอที่จะติดพิมพ์



5. กรองเเป้งด้วยตะเเกรง เพื่อทำให้เเป้งเป็นเนื้อละเอียดที่สุด

 6.เราก็มาเทน้ำมันใส่กระทะ รอประมาณ 15 นาที ให้กระทะ เเละพิมพ์ร้อน

7.เราก็เริ่มนำพิมพ์ที่ร้อนไปจุ่มในเเป้งที่เตรียมไว้ (ห้ามให้พิมพ์จมแป้งเด็ดขาด)
หลังจากนั้นนำลงกระทะได้เลย รอจนเป็นสีเหลืองทอง เเล้วนำขนมขึ้นโดยการใช้ไม้เขี่ย

8.เราก็จะได้ขนมรังต่อ ที่แสนจะอร่อยเละน่ารับประทานอย่างนี้..

>>>>>>>>>>>> ต่อไปนี้จะเป็น Trick ในการทำขนมรังต่อ <<<<<<<<<<<<
ในการเทน้ำปูนใสลงในแป้ง จะต้องใช้น้ำปูนใส ที่มีสีใสที่สุด(ห้ามให้มีสีขุ่น)
เพราะจะทำให้ขนมแข็ง ไม่น่ารับประทาน อีกอย่างสำคัญมากขั้นตอนการทอดขนม
พยามอย่าให้พิมพ์ร้อนจนเกินไป จะทำให้แป้งติดพิมพ์ ขนมที่ได้ก็จะไม่น่ารับประทานค้าาา
>>> ต่อไปนี้จะเป็นการสอนทำขนมรังต่อ ที่เเสนจะอร่อยที่สุดในสามโลกเจ้าค้าาา <<<

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

to..My friend 6/1

                                             

เพื่อนๆๆ 6/1 จ๋าเค้ามีรัยจะบอก




1.ตั้งใจอ่านหนังสือเยอะๆน่ะ



2.ขอให้สอบได้คณะที่ใช่ มหาลัยที่ชอบน่ะ



3.ดูแลสุขภาพด้วยล่ะ

4.รักทุกคนน่ะ




5.ถ้าเกิดเค้าทำอะไรที่ทำให้เพื่อนๆไม่พอใจ เค้าขอโทษน่ะ  !!!