“ช็อกโกแลต”
ลดเสี่ยงเส้นเลือดตีบ
ลดเสี่ยงเส้นเลือดตีบ
นักวิจัยที่สถาบันคาโรลินสกา
(Karolinska Institute) ในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
ได้ติดตามศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้ชายสวีเดน ที่อายุระหว่าง 45 ถึง
79 ปี มากกว่า 37,000 คน
เป็นเวลาประมาณ 10 ปี
ด้วยการให้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับอาหารการกินต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบผู้ชายกลุ่มที่กินช็อกโกแลตอาทิตย์ละประมาณ
63 กรัม มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
ที่เป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดการเป็นอัมพฤกษ์ อัมภาพ
น้อยกว่ากลุ่มที่กินช็อกโกแลตน้อยหรือไม่กินเลยถึง 17 เปอร์เซ็นต์
ในช่วงเวลาและถ้ากินในระดับ 50 กรัมต่อสัปดาห์
ก็ยังช่วยลดอัตราเสี่ยงได้ถึง 14 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน
แม้งานวิจัยก่อนหน้านี้จะบุว่า การรับประทาน "ดาร์กช็อกโกแลต" มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมควรคู่กับอาหารครบ 5 หมู่ แต่ช็อกโกแลตที่ใช้การทดลองครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นช็อกโกแลตนม เนื่องจากเป็นที่นิยมในสวีเดน เพื่อสนับสนุนผลการศึกษาดังกล่าว นักวิจัยได้นำข้อมูลมารวมกับผลการศึกษาก่อนหน้านี้ 4 ครั้ง ซึ่งรวมถึงผลการศึกษาชิ้นที่เกือบเหมือนกันมากที่ศึกษาในผู้หญิง เมื่อปี 2554 และผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่นำมารวมกันซ้ำอีกครั้ง ได้ผลที่คล้ายคลึงกัน ผู้ชายและผู้หญิงที่กินช็อกโกแลตมากมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบน้อยกว่าถึง 19 เปอร์เซ็นต์
ผลการศึกษาชิ้นนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากสภาการวิจัยสวีเดน และตีพิมพ์ในวารสารนิวโรโลจี ฉบับ วันที่ 26 สิงหาคม นับเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อีกชิ้นหนึ่งที่สนับสนุนข้อมูลที่ว่าช็อกโกแลตหรือโกโก้ มีส่วนประกอบบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อหัวใจและเส้นเลือด
โกโก้นั้นมีส่วนประกอบของฟลาโวนอยด์ สารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติลดความดันโลหิต เพิ่มไขมันดีหรือเอชดีแอลและช่วยให้การทำงานของหลอดเลือดดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เลือดไม่แข็งตัวเป็นลิ่ม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการหัวใจวายหรือเส้นเลือดตีบ